ตรงเวลากว่า 37 ปีแล้ว ที่แผนการ Eastern Seaboard เกิดมา จากวันนั้นมาจนกระทั่งวันนี้ เมืองไทยได้ประโยชน์อะไรบ้างรวมทั้งเพราะอะไรแผนการนี้ก็เลยเป็นราวกับแผนการต้นแบบของ EEC
โครงงานปรับปรุงพื้นที่รอบๆชายฝั่งทะเลทิศตะวันออก หรือมีชื่อภาษาอังกฤษว่า Eastern Seaboard Development Program เกิดขึ้นในปี พุทธศักราช 2525 ในยุครัฐบาล พล.อ. เปรม ติณสูลานนท์
โดยอยู่ภายใต้แผนปรับปรุงเศรษฐกิจและก็สังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 5 (2525-2529) ด้านในพื้นที่ทั้งผอง 8.3 ล้านไร่ เป้าประสงค์หลักของแผนการนี้เป็น
เพื่อเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมเบามาเป็น อุตสาหกรรมหนัก แล้วก็อุตสาหกรรมเชิงการค้า เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มทางด้านเศรษฐกิจให้แก่ประเทศในระยะยาว
แบบอย่างอุตสาหกรรมกลุ่มนี้ ได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์แล้วก็องค์ประกอบยานยนต์, องค์ประกอบอิเล็กทรอนิกส์, น้ำมันแล้วก็แก๊ส ปิโตรเคมี
โดยแผนการนี้ตั้งอยู่ใน 3 จังหวัดเป็น จังหวัดชลบุรี จังหวัดระยอง และก็ฉะเชิงเทรา
อีกทั้ง 3 จังหวัดดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น ตั้งอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพมหานคร รวมทั้งเชื่อมต่อกับภาคอีสาน ซึ่งเป็นแหล่งวัตถุดิบและก็แรงงาน
ที่สำคัญ พื้นที่นี้ใกล้กับอ่าวไทย ซึ่งเอื้อต่อการขนส่งผลิตภัณฑ์ทางทะเล
ตั้งแต่ปี 2530-2559 ค่าเงินทุนทั้งหมดทั้งปวงในพื้นที่ Eastern Seaboard ของทั้งยังภาครัฐแล้วก็เอกชนด้วยกันนั้นมีมูลค่ากว่า 2 ล้านล้านบาท
โดย 85% เป็นการลงทุนของภาคเอกชน แล้วก็ 15% เป็นการลงทุนของภาครัฐ
จะต้องเห็นด้วยว่า Eastern Seaboard เป็นหนึ่งในต้นเหตุที่ทำให้ค่า GDP ของเมืองไทยเติบโตแบบติดจรวด
ในปี 2528 เมืองไทยมี GDP 1 ล้านล้านบาท
ในปี 2533 เมืองไทยมี GDP 2 ล้านล้านบาท
ในปี 2538 เมืองไทยมี GDP 4.2 ล้านล้านบาท
ในช่วงเวลา 10 ปี ค่า GDP ของไทยโตกว่า 400%
ทำให้ในเวลานั้น เมืองไทยได้รับการเอ๋ยถึงว่าจะเป็นเสือตัวที่ 5 ของทวีปเอเชียตามหลังประเทศอย่างประเทศฮ่องกง ประเทศสิงคโปร์ ประเทศเกาหลีใต้ รวมทั้งไต้หวัน
ในตอนระหว่างปี 2523-2542 รูปทรงภาคการกสิกรรมต่อมูลค่า GDP น้อยลงจาก 23% มาอยู่ที่ 9.1%
ในตอนที่ภาคอุตสาหกรรมมีรูปทรงเพิ่มจาก 29% มาอยู่ที่ 42%
อีกจำนวนหนึ่งที่น่าดึงดูดก็คือ การลงทุนโดยตรงจากต่างแดน (Foreign Direct Investment)
ปี 2529-2532 เฉลี่ยแล้วปีละ 28,000 ล้านบาท
ปี 2533-2539 เฉลี่ยแล้วปีละ 64,000 ล้านบาท
โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศญี่ปุ่นที่ได้ย้ำการออกไปลงทุนในต่างถิ่นตอนนั้นพอดิบพอดี จากผลพวงของกติกา Plaza Accord ทำให้ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้น ราคาผลิตภัณฑ์แพงถ้าเกิดผลิตในประเทศญี่ปุ่น
ประเทศญี่ปุ่นก็เลยจำเป็นที่จะต้องไปสร้างโรงงานการสร้างในเมืองนอกซึ่งสามารถแข่งได้มากกว่า
ซึ่งเมืองไทยนับว่าเป็นแหล่งที่มีสมรรถนะในสายตานักลงทุนประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากว่าเงินลงทุนแรงงานถูก มีระบบระเบียบเศรษฐกิจเปิดมากยิ่งกว่าประเทศอื่นๆในทวีปเอเชีย
นอกเหนือจากนั้น ภาคทิศตะวันออกได้แปลงเป็นที่ตั้งของนิคมอุตสาหกรรมหลักของประเทศ จากการเกิดขึ้นของ Eastern Seaboard
เดี๋ยวนี้นิคมอุตสาหกรรม กระจัดกระจายไปทั้งยัง 3 จังหวัดนี้
จังหวัดระยอง 12 ที่ จังหวัดชลบุรี 15 ที่ ฉะเชิงเทรา 5 ที่
เฉพาะ 3 จังหวัดนี้มีนิคมอุตสาหกรรม 32 ที่ ซึ่งเกินครึ่งจากนิคมอุตสาหกรรมทั้งสิ้น 59 ที่ทั่วราชอาณาจักร
ปี 2560
ทั้งยัง 3 จังหวัดนี้มีปริมาณโรงงานรวมกัน 10,175 ที่
มีปริมาณแรงงานกว่า 593,650 คน
แล้วก็มีเงินลงทุนรวมกันกว่า 2.5 ล้านล้านบาท
ลองมองราคาสินค้าของจังหวัด 3 จังหวัดในปี 2560 ว่ามีมูลค่ามากแค่ไหน
จังหวัดระยอง 984,980 ล้านบาท
จังหวัดชลบุรี 976,460 ล้านบาท
ฉะเชิงเทรา 341,116 ล้านบาท
ทั้งยัง 3 จังหวัดรวมกันพอๆกับ 2.3 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 16% ของ GDP เมืองไทย
แต่ นับจากปี 2541-2560 เป็นต้นมา เศรษฐกิจไทยขยายตัวในระดับที่ค่อนข้างต่ำเป็นระยะเวลานาน
โดย GDP ของประเทศเติบโตเฉลี่ยแล้วปีละ 3-4% ทำให้เมืองไทยยังไม่สามารถที่จะก้าวผ่านสถานะของประเทศที่มีรายได้ปานกลางไปได้เสียครั้ง
รวมทั้งโน่นก็เลยเป็นต้นเหตุของโครงงาน Eastern Economic Corridor (EEC) สำหรับใช้ต่อยอดแผนการ Eastern Seaboard เพื่อเย้ายวนใจการลงทุนจากต่างประเทศ รวมทั้งประหยัดเวลาให้ประเทศก้าวพ้นจากประเทศที่มีรายได้ปานกลางเร็วขึ้น
โดยโครงงาน EEC จะเน้นการลงทุนด้านของใหม่และก็เศรษฐกิจดิจิทัลมากเพิ่มขึ้น เพื่อผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูง เมื่อเทียบกับแผนการ Eastern Seaboard ซึ่งจะเน้นย้ำไปด้านอุตสาหกรรมหนักมากยิ่งกว่า
แต่ ยังมีความท้าอีกหลายชนิดคอยผู้เกี่ยวข้องอยู่ ซึ่งจำต้องอาศัยความร่วมแรงร่วมใจจากทุกภาคส่วนไม่ว่าจากภาครัฐหรือภาคเอกชน เพื่อนำพาประเทศให้หลุดพ้นจากวังวนของประเทศที่มีรายได้ปานกลาง ที่เราติดกับดักนี้มาแล้ว ไม่ต่ำยิ่งกว่า 43 ปี นั่นเอง
Credit : เงินด่วนโอนเข้าบัญชี24ชั่วโมง2019
- มีเกมส์ให้เล่นมากที่สุด
- ราคาน้ำดี ให้ค่าคอมสูงที่สุด
- ฝากถอนโอนไว รวดเร็วทันใจ
- เล่นตรงกับบริษัท ปลอดภัยมั่นใจได้
- มีพนักงานพร้อมให้บริการ 24 ชั่วโมง
โครงงานปรับปรุงพื้นที่รอบๆชายฝั่งทะเลทิศตะวันออก หรือมีชื่อภาษาอังกฤษว่า Eastern Seaboard Development Program เกิดขึ้นในปี พุทธศักราช 2525 ในยุครัฐบาล พล.อ. เปรม ติณสูลานนท์
โดยอยู่ภายใต้แผนปรับปรุงเศรษฐกิจและก็สังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 5 (2525-2529) ด้านในพื้นที่ทั้งผอง 8.3 ล้านไร่ เป้าประสงค์หลักของแผนการนี้เป็น
เพื่อเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมเบามาเป็น อุตสาหกรรมหนัก แล้วก็อุตสาหกรรมเชิงการค้า เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มทางด้านเศรษฐกิจให้แก่ประเทศในระยะยาว
แบบอย่างอุตสาหกรรมกลุ่มนี้ ได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์แล้วก็องค์ประกอบยานยนต์, องค์ประกอบอิเล็กทรอนิกส์, น้ำมันแล้วก็แก๊ส ปิโตรเคมี
โดยแผนการนี้ตั้งอยู่ใน 3 จังหวัดเป็น จังหวัดชลบุรี จังหวัดระยอง และก็ฉะเชิงเทรา
อีกทั้ง 3 จังหวัดดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น ตั้งอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพมหานคร รวมทั้งเชื่อมต่อกับภาคอีสาน ซึ่งเป็นแหล่งวัตถุดิบและก็แรงงาน
ที่สำคัญ พื้นที่นี้ใกล้กับอ่าวไทย ซึ่งเอื้อต่อการขนส่งผลิตภัณฑ์ทางทะเล
ตั้งแต่ปี 2530-2559 ค่าเงินทุนทั้งหมดทั้งปวงในพื้นที่ Eastern Seaboard ของทั้งยังภาครัฐแล้วก็เอกชนด้วยกันนั้นมีมูลค่ากว่า 2 ล้านล้านบาท
โดย 85% เป็นการลงทุนของภาคเอกชน แล้วก็ 15% เป็นการลงทุนของภาครัฐ
จะต้องเห็นด้วยว่า Eastern Seaboard เป็นหนึ่งในต้นเหตุที่ทำให้ค่า GDP ของเมืองไทยเติบโตแบบติดจรวด
ในปี 2528 เมืองไทยมี GDP 1 ล้านล้านบาท
ในปี 2533 เมืองไทยมี GDP 2 ล้านล้านบาท
ในปี 2538 เมืองไทยมี GDP 4.2 ล้านล้านบาท
ในช่วงเวลา 10 ปี ค่า GDP ของไทยโตกว่า 400%
ทำให้ในเวลานั้น เมืองไทยได้รับการเอ๋ยถึงว่าจะเป็นเสือตัวที่ 5 ของทวีปเอเชียตามหลังประเทศอย่างประเทศฮ่องกง ประเทศสิงคโปร์ ประเทศเกาหลีใต้ รวมทั้งไต้หวัน
ในตอนระหว่างปี 2523-2542 รูปทรงภาคการกสิกรรมต่อมูลค่า GDP น้อยลงจาก 23% มาอยู่ที่ 9.1%
ในตอนที่ภาคอุตสาหกรรมมีรูปทรงเพิ่มจาก 29% มาอยู่ที่ 42%
อีกจำนวนหนึ่งที่น่าดึงดูดก็คือ การลงทุนโดยตรงจากต่างแดน (Foreign Direct Investment)
ปี 2529-2532 เฉลี่ยแล้วปีละ 28,000 ล้านบาท
ปี 2533-2539 เฉลี่ยแล้วปีละ 64,000 ล้านบาท
โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศญี่ปุ่นที่ได้ย้ำการออกไปลงทุนในต่างถิ่นตอนนั้นพอดิบพอดี จากผลพวงของกติกา Plaza Accord ทำให้ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้น ราคาผลิตภัณฑ์แพงถ้าเกิดผลิตในประเทศญี่ปุ่น
ประเทศญี่ปุ่นก็เลยจำเป็นที่จะต้องไปสร้างโรงงานการสร้างในเมืองนอกซึ่งสามารถแข่งได้มากกว่า
ซึ่งเมืองไทยนับว่าเป็นแหล่งที่มีสมรรถนะในสายตานักลงทุนประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากว่าเงินลงทุนแรงงานถูก มีระบบระเบียบเศรษฐกิจเปิดมากยิ่งกว่าประเทศอื่นๆในทวีปเอเชีย
นอกเหนือจากนั้น ภาคทิศตะวันออกได้แปลงเป็นที่ตั้งของนิคมอุตสาหกรรมหลักของประเทศ จากการเกิดขึ้นของ Eastern Seaboard
เดี๋ยวนี้นิคมอุตสาหกรรม กระจัดกระจายไปทั้งยัง 3 จังหวัดนี้
จังหวัดระยอง 12 ที่ จังหวัดชลบุรี 15 ที่ ฉะเชิงเทรา 5 ที่
เฉพาะ 3 จังหวัดนี้มีนิคมอุตสาหกรรม 32 ที่ ซึ่งเกินครึ่งจากนิคมอุตสาหกรรมทั้งสิ้น 59 ที่ทั่วราชอาณาจักร
ปี 2560
ทั้งยัง 3 จังหวัดนี้มีปริมาณโรงงานรวมกัน 10,175 ที่
มีปริมาณแรงงานกว่า 593,650 คน
แล้วก็มีเงินลงทุนรวมกันกว่า 2.5 ล้านล้านบาท
ลองมองราคาสินค้าของจังหวัด 3 จังหวัดในปี 2560 ว่ามีมูลค่ามากแค่ไหน
จังหวัดระยอง 984,980 ล้านบาท
จังหวัดชลบุรี 976,460 ล้านบาท
ฉะเชิงเทรา 341,116 ล้านบาท
ทั้งยัง 3 จังหวัดรวมกันพอๆกับ 2.3 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 16% ของ GDP เมืองไทย
แต่ นับจากปี 2541-2560 เป็นต้นมา เศรษฐกิจไทยขยายตัวในระดับที่ค่อนข้างต่ำเป็นระยะเวลานาน
โดย GDP ของประเทศเติบโตเฉลี่ยแล้วปีละ 3-4% ทำให้เมืองไทยยังไม่สามารถที่จะก้าวผ่านสถานะของประเทศที่มีรายได้ปานกลางไปได้เสียครั้ง
รวมทั้งโน่นก็เลยเป็นต้นเหตุของโครงงาน Eastern Economic Corridor (EEC) สำหรับใช้ต่อยอดแผนการ Eastern Seaboard เพื่อเย้ายวนใจการลงทุนจากต่างประเทศ รวมทั้งประหยัดเวลาให้ประเทศก้าวพ้นจากประเทศที่มีรายได้ปานกลางเร็วขึ้น
โดยโครงงาน EEC จะเน้นการลงทุนด้านของใหม่และก็เศรษฐกิจดิจิทัลมากเพิ่มขึ้น เพื่อผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูง เมื่อเทียบกับแผนการ Eastern Seaboard ซึ่งจะเน้นย้ำไปด้านอุตสาหกรรมหนักมากยิ่งกว่า
แต่ ยังมีความท้าอีกหลายชนิดคอยผู้เกี่ยวข้องอยู่ ซึ่งจำต้องอาศัยความร่วมแรงร่วมใจจากทุกภาคส่วนไม่ว่าจากภาครัฐหรือภาคเอกชน เพื่อนำพาประเทศให้หลุดพ้นจากวังวนของประเทศที่มีรายได้ปานกลาง ที่เราติดกับดักนี้มาแล้ว ไม่ต่ำยิ่งกว่า 43 ปี นั่นเอง
Credit : เงินด่วนโอนเข้าบัญชี24ชั่วโมง2019
- มีเกมส์ให้เล่นมากที่สุด
- ราคาน้ำดี ให้ค่าคอมสูงที่สุด
- ฝากถอนโอนไว รวดเร็วทันใจ
- เล่นตรงกับบริษัท ปลอดภัยมั่นใจได้
- มีพนักงานพร้อมให้บริการ 24 ชั่วโมง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น